ขับเกียร์ออโต้ ขึ้นเขา-ลงเขา ขับยังไงให้ปลอดภัย

ขับเกียร์ออโต้ ขึ้นเขา-ลงเขา ขับยังไงให้ปลอดภัย

82 / 100

ถ้าเป็นผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ในพื้นที่ที่มีเนินหรือภูเขา หากเป็นการขับรถด้วยเกียร์ธรรมดาจะสามารถควบคุมรถในการขับขี่ได้ดีกว่า แต่าถ้าหากเราขับเกียร์ธรรมดาไม่เป็น แล้วเวลาเช่ารถส่วนใหญ่ก็ได้รับรถเกียร์ออโต้กันอยู่แล้ว หากต้องเดินทางไกล ผ่านพื้นที่ที่ต้องขึ้นเขา เราแนะนำวิธีการขับเกียร์ออโต้ ขึ้นเขา-ลงเขา ขับยังไงถึงจะปลอดภัย

รู้จักกับเกียร์ที่เป็นตัวช่วยในการขับรถขึ้นเขา ลงเขา

ก่อนอื่นเลย หลายๆ คนขับรถเดินหน้าก็ใช้แต่เกียร์ D เพียงเกียร์เดียว จนไม่รู้ว่าเกียร์อื่นๆ ทำงานอย่างไร ถึงแม้จะเห็นว่ามีเกียร์อื่นนอกเหนือจาก P R N D ก็ตาม แน่นอนว่าผู้ผลิตรถยนต์ไม่ได้ทำมาไว้เท่ๆ เพราะเกียร์อื่นนอกเหนือจากนี้ก็มีประโยชน์ และเป็นตัวช่วยในการขับขี่ได้ดีทีเดียว

โดยระดับการใช้งานก็ขึ้นอยู่กับความลาดชันของพื่นที่ที่เราขับไป คือ D3 (หรือเกียร์ 3) ชันน้อย เช่น ขึ้นสะพาน, D2 (หรือเกียร์ 2) ชันมากขึ้นมาหน่อย เช่น เนินเขา, D1 (หรือเกียร์ L) ชันมาก เช่น ภูเขาสูง

การขับเกียร์ออโต้ ขึ้นเขา

สามารถใช้เกียร์ D ได้ในทางที่ไม่มีการลาดชันมาก แต่หากเจอทางที่ลาดชันและมากขึ้นจนทำให้เครื่องยนต์ตกลงมา สามารถเปลี่ยนจากเกียร์ D มาเป็นเกียร์ D3 ได้ เนื่องจากเป็นเกียร์ต่ำจะใช้รอบที่สูงทำให้อัตราการเร่งมีกำลังมากขึ้นเพื่อให้ผ่านทางที่ลาดชันไปได้ หากลาดชันมากขึ้นสามารถเปลี่ยนระดับมาเป็นเกียร์ D2 และหากดูแล้วว่าลาดชันมากๆ ควรใช้เกียร์ D1 เพื่อลดเกียร์ให้ต่ำลงและเกาะถนนมากยิ่งขึ้น หลังจากเข้าสู่เส้นทางปกติก็กลับมาใช้เกียร์ D ได้ดังเดิม

การขับรถลงเขา

การขับขึ้นเขาอาจจะเหนื่อยตรงการปีนขึ้นไป แต่การขับลงเขาจะอันตรายกว่า เพราะมีความเร็วจากแรงโน้มถ่วงที่ทำให้คุณต้องบังคับรถให้ดี ใครที่ไม่ชินเส้นทางจะต้องระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ การแตะเบรกเพื่อชะลอความเร็วอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ และอาจทำให้เบรกไหม้ได้ จึงต้องใช้เกียร์เข้าช่วย โดยใช้เกียร์ D2 ในทางที่ลาดชัน แต่ถ้าเป็นภูเขาสูงมากควรเป็นเป็นเกียร์ D1 หรือเกียร์ L ซึ่งจะเป็นเกียร์ต่ำที่ช่วยให้รถช้าลงโดยเราไม่ต้องใช้เบรกมากโดยไม่จำเป็น

เช่ารถกับ ChangDrive ขับขี่ปลอดภัย มั่นใจทุกการเดินทาง
LINE: @changdrive

Comments (0)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น