6 สิ่งความเข้าใจผิดเมื่อขับรถ

6 สิ่งความเข้าใจผิดเมื่อขับรถ

83 / 100

ไม่ว่าจะขับรถเช่า หรือขับรถของตัวเอง หลายคนยังมีความเชื่อผิดๆ หรือความเคยชินผิดๆ เกี่ยวกับการขับรถ ที่อาจจะคิดว่าทำได้แต่จริงๆ แล้วไม่ถูกต้อง ดังนั้นมาทำความเข้าใจกันให้ถูกต้อง เรามาดูความเข้าใจผิดเมื่อขับรถว่ามีอะไรบ้าง

1. เปิดไฟฉุกเฉิน เมื่อผ่านสี่แยกหรือฝนตกหนัก

เปิดไฟฉุกเฉิน เมื่อผ่านสี่แยกหรือฝนตกหนัก

พอถึงสี่แยก แล้วจะวิ่งตรง บางคนชอบเปิดไฟฉุกเฉิน อาจเป็นความเข้าใจว่าทำให้รถคันหลังทราบว่าไม่ได้เลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวา แต่เป็นการจะข้ามตรงไป แต่หารู้ไม่ว่าการเปิดไฟแบบนี้อันตรายอย่างยิ่ง เพราะรถทั้งฝั้งซ้ายและขวาจะมองเห็นไฟเพียงด้านเดียว ทางฝั่งซ้ายของเราจะมองเห็นเหมือนกับว่ารถจะเลี้ยวซ้าย จึงไม่ระวังและไม่ได้ชลอรถ อาจทำให้รถประสานงากันได้ ส่วนรถทางด้านขวามือก็อาจจเข้าใจว่ารถตั้งใจเลี้ยวขวา เกิดการอ่านใจกันไม่ออก ทำให้เสียเวลาทั้งสองฝ่าย อีกทั้งคันข้างหลังถ้าไม่เข้าใจการสื่อสาร อาจเข้าใจผิดว่าข้างหน้าเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรหรือเปล่า ทั้งนี้หากจะข้ามไปฝั่งตรงข้าม ไม่ต้องเปิดไฟฉุกเฉิน จะปลอดภัยกว่า

ในช่วงเวลาที่ฝนตกหนักก็เช่นกัน เรามักจะเห็นรถคันข้างหน้าเปิดไฟฉุกเฉิน ซึ่งมันผิดวัตถุประสงค์ และอาจทำให้คันข้างหลังเข้าใจว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก็เป็นได้ และหากจะเลี้ยวรถ คันหลังก็มองเห็นไม่ชัดว่าจะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาหรือไม่อย่างไร ดังนั้นควรใช้ไฟฉุกเฉินให้ถูก

2. ขับรถเร็วแล้วขับแช่ขวาได้

ขับรถเร็วแล้วขับแช่ขวาได้

เป็นเรื่องถกเถียงกันมานักต่อนัก ว่าทางกฎหมายกำหนดว่าไม่ควรขับรถเกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง และขับเท่านี้จะขับเลนขวาก็ไม่ผิด คนอื่นอยากขับเร็วกว่านี้ก็แซงซ้ายไปเอง แต่ในความเป็นจริง โดยเฉพาะในการเดินทางไกลนั้น ถือเป็นความเร็วที่ค่อนข้างช้าและกีดขวางทางคนอื่นมาก ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นมารยาทที่ดีบนท้องถนน หากคุณต้องการที่จะขับด้วยความเร็วไม่เกินนั้นควรเข้าเลนซ้ายจะดีที่สุด หรือคุณอาจจะขับเลนขวาได้หากไม่มีคันอื่นตามหลังมา แต่เมื่อมองเห็นว่าคันข้างหลังมาเร็ว คุณต้องหลบเข้าซ้าย

3. ไหล่ทางมีไว้แซง

ไหล่ทางมีไว้แซง

เดี๋ยวก่อน! ถ้ากำลังคิดอย่างนี้อยู่ล่ะก็ เปลี่ยนความคิดซะใหม่ เพราะไหลทางไม่ได้มีไว้แซง หากอยากแซงควรต้องแซงขวา ไหล่ทางนั้นมีทั้งสิ่งกีดขวางที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้หากคุณแซงซ้าย เช่น รถจักรยาน รถมอเตอร์ไซค์ มีคนเดินอยู่ รถจอดเข้าข้างทาง หรือมีรถจอดเสียอยู่ ด้วยธรรมชาติของการแซงจะเหยียบคันเร่งเพื่อเร่งแซงอยู่แล้ว ถ้าเกิดแซงไปแล้วไปเจอกับสิ่งเหล่านี้เบรกไม่ทันแน่ๆ อีกทั้งคนที่ชอบเปิดเลน เห็นรถติดยาวๆ หวังทางลัดโดยการเปิดเลนซ้าย ถือเป็นพฤติกรรมที่มักง่ายมากๆ

4. ความเข้าใจผิดเมื่อขับรถ นั่งขับรถชิดพวงมาลัย

ความเข้าใจผิดเมื่อขับรถ นั่งขับรถชิดพวงมาลัย

บางคนที่ขับรถไม่แข็ง มักจะนั่งชิดพวงมาลัย จะด้วยเพราะความอุ่นใจ หรือการอยากมองเห็นทางชัดๆ หรือความเกรงในการขับขี่ก็แล้วแต่ การนั่งขับรถยนต์ชิดพวงมาลัยมากๆ ก็เป็นการนั่งที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว การกะระยะมองรอบรถก็มองได้ยาก จะมองกระจกข้างกระจกหลังก็ลำบากกว่านั่งท่าปกติ ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นมีแค่เพียงข้างหน้าเท่านั้น ซึ่งอาจจะพลาดมองไม่เห็นอะไรที่อยู่ข้างๆ หรือข้างหลัง แล้วอาจมีการเฉี่ยวชนเกิดขึ้นได้ ดังนั้น เลิกนั่งชิดพวงมาลัย ปรับท่านั่งให้ดีๆ สบายๆ มองข้างหน้าชัดแล้ว ต้องดูระยะสายตาว่าสามารถปรายตามองกระจกข้างและกระจกหลังได้โดยไม่ต้องชะโงกหน้าไปมา ปรับเบาะนั่งให้อยู่พอดี ทำตัวสบายๆ จะขับรถได้ดีกว่า

5. เปลี่ยนเกียร์ว่างตอนลงสะพานหรือใกล้จะหยุดรถ

เปลี่ยนเกียร์ว่างตอนลงสะพานหรือใกล้จะหยุดรถ

อยากประหยัดน้ำมัน ก็เลยปล่อยเกียร์ว่างตอนลงสะพาน ซึ่งการกระทำแบบนี้ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ไม่ควรเสี่ยงแลกความปลอดภัยกับน้ำมันอาจจะประหยัดลงเพียงน้อยนิด เพราะการปล่อยเกียร์ว่างจะทำให้การทำงานของเกียร์หยุดลง น้ำมันเกียร์ไม่มีการหล่อลื่น ทำให้ชุดเกียร์สึกหรอเร็วขึ้น และหากใช้รถไปนานๆ เกียร์ผิดปกติจะมีผลเสียต่อการขับขี่รวมถึงรถพังเสียหายอีกด้วย

6. เปลี่ยนเกียร์ P เมื่อรถติดไฟแดง

เปลี่ยนเกียร์ P เมื่อรถติดไฟแดง

เมื่อรถจอดรอไฟแดง หรือรถติดนานๆ บางคนเลือกที่จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ P เพื่อจะได้ไม่ต้องเหยียบเบรก ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะมีความเสี่ยงต่อความเสียหายชุดล็อคเกียร์ หากเกิดมีรถชนท้ายขึ้นมา เกียร์ล็อค คราวนี้ขยับไปไหนไม่ได้เลย ซ่อมเกียร์ก็เสียเงินเพิ่มโดยใช่เหตุ ทางที่ดีควรเป็นการเข้าเกียร์ N แล้วดึงเบรกมือไว้จะดีกว่า

เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายคนเข้าใจผิด เข้าใจเสียใหม่ครั้งต่อไปขับรถจะได้ทำถูกต้อง

ขับรถปลอดภัย เลือกเช่ารถกับ ChangDrive
LINE: @changdrive

Comments (0)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น