ข้อระวัง! การใช้ไฟฉุกเฉินแบบผิดๆ

ไฟฉุกเฉินใช้สำหรับเวลาฉุกเฉินเท่านั้น แต่เราก็มักจะเห็นคนใช้ไฟฉุกเฉินแบบพร่ำเพรื่อ ใช้เมื่อไม่ใช่เวลาที่ควรใช้ แล้วการเปิดไฟฉุกเฉินแบบผิดๆ ยังเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจากความเข้าใจผิดได้อีกด้วย ซึ่งมี 2 ข้อหลักๆ ของการใช้ไฟฉุกเฉินแบบผิดๆ ที่มักเห็นอยู่ตลอดเวลาอยู่บนท้องถนน ก็คือ การเปิดไฟฉุกเฉินตรงสี่แยก และการเปิดไฟฉุกเฉินเวลาฝนตก

เปิดไฟฉุกเฉินตรงสี่แยก

ลองนึกภาพตาม ถ้าคุณอยู่ตรงสี่แยกแล้วเปิดไฟฉุกเฉิน ไฟจะกระพริบทั้งซ้ายและขวา นั่นก็หมายความว่า รถทางซ้ายมือจะเห็นเราเปิดไฟเลี้ยวซ้าย และรถขวามือเห็นเราเปิดไฟเลี้ยวขวา ไม่ได้มีใครคิดว่าคุณจะตรงไป ซึ่งในกรณีที่รถที่อยู่ทางซ้ายมือคุณเห็นไฟฉุกเฉินกระพริบอยู่ อาจเข้าใจผิดว่าคุณต้องการเลี้ยวซ้าย จึงขับตรงไปโดยไม่คิดว่าคุณก็จะขับตรงไปเช่นกัน หากออกตัวพร้อมกันมีสิทธิ์ชนกันแน่ๆ

จะขับรถข้ามแยกต้องทำอย่างไร ในความจริงแล้วการจะขับข้ามแยกไม่ต้องเปิดไฟฉุกเฉินหรือไฟเลี้ยวใดๆ เลย หากแยกนั้นไม่มีสัญญาณไฟ อาจจะต้องชะลอความเร็วแล้วดูซ้ายขวาให้แน่ใจก่อนข้ามทาง

เปิดไฟฉุกเฉินเมื่อฝนตกหนัก

ในตอนที่ฝนตกหนัก อาจจะกลัวว่ารถคันข้างหลังมองไม่เห็นเลยเปิดไฟฉุกเฉินกระพริบบอกให้รู้ว่ามีรถขับอยู่ แต่ความจริงแล้วไฟฉุกเฉินไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก การเปิดไฟรถส่องทางก็จะเปิดไฟท้ายโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่เมื่อคุณเปิดไฟฉุกเฉิน ไฟจะกระพริบตลอดเวลา แล้วถ้าหากจะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือเปลี่ยนเลน ไม่ว่าจะรถคันข้างหลังหรือรถที่สวนทางคุณอยู่ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าคุณจะเลี้ยวไปทางไหน แล้วจะแล้วตอนไหน ยิ่งคุณเลี้ยวรถแบบนี้ คันอื่นเบรกไม่ทัน ถนนลื่นๆ เบรกปัด ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้อีก แล้วการเปิดไฟกระพริบตลอดเวลาแบบนี้ ยังเป็นการรบกวนสายตาคนอื่นอีกด้วย

เมื่อฝนตกหนักต้องทำอย่างไร เมื่อฝนตกหนัก คุณไม่จำเป็นต้องเปิดไฟฉุกเฉินเลย เพียงเปิดไฟหน้ารถเหมือนตอนที่คุณขับรถเวลากลางคืน ไฟท้ายก็ส่องสว่างให้รถคันข้างหลังรู้แล้ว อีกทั้งเวลาจะเลี้ยวก็เปิดไฟเลี้ยวได้ เพื่อให้ผู้ร่วมทางทราบว่าคุณกำลังเลี้ยว ร่วมกับการขับรถด้วยความเร็วต่ำ ก็จะช่วยลดความเข้าใจผิดและอุบัติเหตุไปได้มาก

เช่ารถกับ ChangDrive ขับขี่ปลอดภัย มั่นใจทุกการเดินทาง
LINE: @changdrive