ก่อนรับรถเช่าต้องตรวจเช็คอะไรบ้าง?

ก่อนรับรถเช่าต้องตรวจเช็คอะไรบ้าง?

74 / 100

เช็คความพร้อมก่อนขับรถออกจากศูนย์รถเช่า แนะนำ 4 จุดสังเกตง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ สำหรับตรวจเช็ครถก่อนรับรถเช่า นอกจากการตรวจสภาพรถเบื้องต้น เอกสารที่สำคัญ เช็คร่องรอยต่างๆ ทั้งภายนอกและภายในแล้ว ยังมีอีก 4 จุดที่สำคัญในการตรวจเช็คก่อนรับรถเช่าที่อยากแนะนำให้คุณรู้ มีจุดไหนบ้างมาดูกัน

จุดที่ 1 เช็คดอกยางรถยนต์ด้วยเหรียญบาท

จุดที่ 1 เช็คดอกยางรถยนต์ด้วยเหรียญบาท

ล้อไม่เคลื่อนก็วิ่งรถไม่ได้ เพราะฉะนั้น จุดแรกที่สำคัญที่ควรตรวจเช็คก่อนรับรถเช่า เพื่อความปลอดภัยเมื่ออยู่ในสถานการณ์คับขัน ถนนลื่น ฝนตก อุบัติเหตุรถชน นั่นก็คือ ยางรถยนต์!

วิธีสังเกต

  • ตรวจสภาพเนื้อยางเบื้องต้นทั้ง 4 ล้อ ด้วยตาเปล่าก่อน แก้มยางจะต้องไม่แยกแตก หรือ มีรอยร้าว เพราะถ้าหากมีรอยเหล่านี้ เมื่อขับรถด้วยความเร็วอาจเป็นสาเหตุให้ยางระเบิดได้
  • สัมผัสที่เนื้อยางต้องนิ่ม เมื่อใช้เล็บจิกลงบนผิวยาง จะทิ้งรอยเล็บไว้นิดนึง และ จะเด้งกลับมาขึ้นรูปเดิม แสดงว่าเนื้อยางยังคงยืดหยุ่นดี ยางจะได้เกาะถนนดี เวลาเบรกแรงๆ จะไม่ลื่นไถล
  • ตรวจเช็คหน้ายางด้วยสะพานยาง โดยดอกยางของรถเช่าไม่ควรสึกลงไปจนถึงสะพานยาง ควรเหลือความลึกของดอกยางอยู่ประมาณ 2 มิลลิเมตร เพื่อความปลอดภัยในการขับรถในหน้าฝน
  • หากนำเหรียญบาทวางตรงกลางของร่องดอกยาง ต้องลึกไม่ตํ่ากว่า1/3ของเหรียญบาท เพราะหากดอกยางสูงไม่เพียงพอ ประสิทธิภาพในการรีดน้ำออกจากบริเวณใต้ล้อยางจะลดลง เมื่อฝนตกถนนลื่น จะทำให้รถเสียการทรงตัวได้ง่าย

จุดที่ 2: เช็คระบบเบรก จากน้ำมันเบรก

จุดที่ 2:  เช็คระบบเบรก จากน้ำมันเบรก

ลดเคลื่อนแล้วต้องมีการเบรกเป็นของคู่กัน ซึ่งระบบเบรกเป็นจุดที่สำคัญมากต่อการควบคุมรถยนต์เป็นอย่างมาก นอกจากจะช่วยชะลอรถและให้รถหยุดนิ่งตามต้องการแล้ว เวลาที่ต้องเหยียบเบรกกะทันหัน เมื่อมีรถอยู่ข้างหน้าและตามหลัง หรือเวลาที่มีอะไรตัดหน้า ถ้าระบบเบรกสมบูรณ์ ก็จะลดอุบัติเหตุลงได้ ดังนั้น ควรเช็คระบบเบรก เวลาเหยียบเบรกแล้วมีเสียงดังแปลกๆ หรือ เบรกแล้วสั่นที่เท้า หรือ พวงมาลัย หรือไม่

วิธีสังเกต

  • สังเกตง่ายๆ โดยเปิดฝากระโปรงหน้ารถ ดูระดับน้ำมันเบรก โดยปกติควรอยู่ในระดับ MAX หรือต่ำกว่านิดหน่อย ไม่ควรตํ่ากว่าระดับ MIN
  • สังเกตจากคราบน้ำมันบนพื้นที่จอดรถเช่า ด้านขวาของรถ (ฝั่งคนขับ) น้ำมันเบรกที่ผิดปกติและเสื่อมสภาพแล้ว จะเป็นสีดำ
  • ลองเหยียบเบรกค้างเอาไว้ ถ้าแป้นเบรกจมลงทีละนิดจนสุด และต้องเบรกยํ้าซ้ำๆถึงจะอยู่ แบบนี้แสดงว่าระบบเบรกจมและมีปัญหาแล้วล่ะ!

จุดที่ 3: เนื้อยางปัดน้ำฝน

จุดที่ 3: เนื้อยางปัดน้ำฝน

หากเป็นช่วงเวลาเดินทางปกติอาจจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญกับที่ปัดน้ำฝนสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนแล้วล่ะก็ สิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นมากเลยล่ะ รวมไปถึงสภาพอากาศเดี๋ยวนี้ที่ฝนอาจตกขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ดังนั้นทัศนวิสัยในการมองย่อมเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญต่อการขับรถ ดังนั้นจึงควรเช็คกว่าที่ปัดน้ำฝนของรถเช่าที่เราจะนำไปขับนั้นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ จริงหรือไม่

วิธีสังเกต

  • ลองกดสวิตช์น้ำฉีดกระจก สังเกตก้านปัดน้ำฝนว่าทำงานปกติดีหรือไม่ มีเสียงดัง มีอาการสะดุดหรือกระตุกหรือไม่
  • ลองสัมผัสที่ยางปัดน้ำฝนว่าแข็งกระด้างแห้งกรอบหรือมีรอยฉีกขาดหรือไม่ เพราะเนื้อยางที่แข็งแสดงถึงการเสื่อมสภาพของยาง นอกจากจะไม่มีประสิทธิภาพในการปัดน้ำฝนแล้ว อาจทำให้กระจกเสียหายได้
  • ถ้าปัดกระจกแล้ว มีรอยน้ำเป็นเส้นยาวบนกระจก มากกว่า 4-5 เส้นขึ้นไป ปัดแล้วมีคราบน้ำ ปัดแล้วมองกระจกไม่ชัด สาเหตุมาจากการใช้ยางปัดที่เก่าแข็งจนกรอบแตก

จุดที่ 4: เช็คระบบไฟส่องสว่าง โดยเฉพาะไฟเบรก

จุดที่ 4: เช็คระบบไฟส่องสว่าง โดยเฉพาะไฟเบรก

ก่อนรับรถควรเช็คระบบไฟของรถทุกครั้ง ว่าสามารถทำงานได้ดี ไม่มีปัญหาครบทุกจุด ทั้งไฟหน้า-หลัง ไฟเลี้ยว ไฟสูง ไฟหรี่ ไฟเบรก ไฟฉุกเฉิน ซึ่งไม่เพียงแต่ไฟหน้าจะช่วยในการมองเห็นตอนกลางคืนแล้ว ไฟสัญญาณต่างๆ ก็มีส่วนให้การแจ้งให้ผู้ร่วมทางทราบว่าเราจะเลี้ยวรถ กำลังจะเบรกรถ หรือรถจอดฉุกเฉิน

วิธีสังเกต

  • หากไฟเลี้ยวหลอดใดหลอดหนึ่งขาด จะมีอาการไฟเลี้ยวกระพริบถี่ๆ และบางที่จะมีเสียงไฟเลี้ยวดังรัวกว่าปกติ
  • โดยปกติไฟเบรกจะไม่สามารถเช็คได้คนเดียว ควรมีคนหนึ่งช่วยเหยียบเบรก และอีกคนดูด้านหลังว่าเบรกติดหรือไม่

อย่างไรก็แล้วแต่ ศูนย์รถเช่าที่ดีมักมีการตรวจเช็คให้ลูกค้าก่อนส่งรถอยู่แล้ว ซึ่งหากเช่ารถกับ ChangDrive เรามีการตรวจเช็ครถทุกคันก่อนส่งมอบ วางใจได้แน่นอน

Comments (0)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น